G-Shock FrogMan

มารู้จัก G-Shock FrogMan กัน



เมื่อ 26 ปีที่แล้ว ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1993 G-Shock เปิดตัวจีช็อค DW-6300 ซีรี่ย์ นาฬิกาดำน้ำมาตรฐาน ISO6425 สำหรับการดำน้ำลึก 200 เมตร FROGMAN ถือเป็นรุ่นท็อปของ Casio G-Shock ในซีรี่ย์  Master Of G ซึ่งออกแบบมาเพื่อการใช้งานพิเศษเฉพาะทางด้านต่างๆ


 ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1995 มีการเปิดตัวรุ่นที่สองของ Frogman คือ DW-8200 หลังจากนั้น Frogman ก็กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสม G-Shock อย่างมาก และมีการเปิดตัวรุ่นพิเศษอื่นๆตามมาอีกมากมาย


ในรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ Frogman อีกรุ่นหนึ่งได้แก่ MRG-1100-2 ซึ่งรุ่นนี้เป็นหนึ่งใน MR-G ซีรี่ส์ ซึ่งเป็น G-Shock ระดับ Hi-end ในขณะที่ G-Shock รุ่นอื่น ๆ ทำจาก สแตนเลส และสายเรซิ่น แต่ MRG-1100-2 ถูกสร้างขึ้นจาก Titanium ทั้งเรือน



ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1999 Frogman เปิดตัวรุ่น DW-9900  มีขนาดเล็กกว่า DW-8200 เล็กน้อย อีกสองปีต่อมา มีการผลิตทั้งรุ่น DW-8200 และ DW-9900 ออกมาขาย ซึ่ง DW-9900 ดูเหมือนจะเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าเนื่องจากเปิดตัวหลัง “GW-200” ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2001 ยกเว้น " Snake Killer " และ "Carbon Fiber Frogman" (GW-201-6JF และ GW-201NT-1JF ตามลำดับ) Frogman สองรุ่นนี้ใช้เครื่องพลังงานแสงอาทิตย์ Tough Solar 2422


    FROGMAN ซีรีส์ GW-200 รุ่นสุดท้ายคือ GW-200Z-1JF หรือ "Final Frogman" ที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2009 โดยทั่วไปรหัสที่ขึ้นต้นด้วย "GW" จะหมายถึงนาฬิกา G-Shocks ที่สามารถรับการอัปเดตเวลาจากสัญญาณวิทยุซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า ”Atomic Signals”  แต่ Frogman ไม่ได้ติดตั้งคุณสมบัตินี้ไว้ใน GW-200 ก่อนที่จะปล่อย GWF- 1000 เป็นรุ่นต่อมา

GWF-1000 เปิดตัวในเดือนกันยายน ค.ศ. 2009 ที่ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นทายาทลำดับที่ 5 ของซีรีย์นี้
GWF-1000 สามารถรับการอัปเดตเวลาจากสถานีส่งสัญญาณวิทยุหกแห่งทั่วโลก (Mutiband 6) ได้แก่ Mainflingen [เยอรมนี], Anthorn [อังกฤษ], Ft Collins [สหรัฐอเมริกา], Shangqiu [จีน] & Fukushima & Fukuoka / Saga [ญี่ปุ่น] และยังคงมาตราฐาน ISO 6425 กันน้ำ 200 เมตร กันสะเทือน จับเวลาดำน้ำ และใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นน้ำขึ้นน้ำลง และกราฟดวงจันทร์ เช่นเดียวกับ Frogman รุ่นก่อน โครงสร้าง GWF-1000  ทำมาจากสแตนเลสพร้อมเคลือบสารกันสนิม DLC (diamond-like carbon) ที่ฝาหลัง เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน


    รุ่นต่อมา GWF-D1000  เปิดตัวในงาน Baselworld 2016 ซึ่งรวมถึง GWF-D1000-1 และ GWF-D1000B-1 นอกเหนือจากคุณสมบัติปกติเช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์ "Tough Solar" และระบบปรับเวลาตามสัญญาณวิทยุ ”Atomic Signals” รุ่น GWF-D1000 ยังเพิ่ม Sensor อีกสามตัวซึ่งสามารถ วัดอุณหภูมิ วัดความลึก(80m) และ มีเข็มทิศ นาฬิกาจะบันทึกเวลาการดำน้ำของผู้ใช้ตามความลึก บันทึกอุณหภูมิของน้ำ และบันทึกข้อมูลสำหรับการดำน้ำสูงสุดได้ 20 ครั้ง

 กระจกเป็น Crystal Sapphire สายคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) เหนียวแข็งแรงทนทาน ตัวเรือนค่อนข้างใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ใครข้อมือเล็กนี่ปลายสายด้านยาวจะเหลือโผล่ออกมาเยอะเลยครับ คงเผื่อความยาวไว้เวลาใส่กับชุดดำน้ำ

นี่เป็นเรื่องราวคร่าวๆ ของมนุษย์กบเรือนนี้จากอดีตจนเกือบถึงปัจจุปัน และยังคงเดินทางต่อไปในอนาคต ขอบคุณที่ติดตามครับ..
จากใจถึงใจ
Kai_Watchman
https://www.facebook.com/KaiNaligaTry/

ที่มา
https://en.wikipedia.org/wiki/Casio_G-Shock_Frogman

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

FanPage