ทำไม G-Shock ถึงเป็นมากกว่านาฬิกา?

วรัชญ์ วานิชวัฒนากุล

ตูน–วรัชญ์ วานิชวัฒนากุล นักลงเสียงและพิธีกรมืออาชีพ ที่เคยเป็นถึง SUPER FAN จากรายการแฟนพันธุ์แท้ นาฬิกา G-SHOCK ประจำปี 2017 ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่รักจีช็อคหมดหัวใจ

DW-6900 Series

 ของสะสมบางอย่างเราก็สะสมเพิ่ม สะสมเพิ่มบางอย่างนะ รองเท้าผ้าใบผมก็สะสมเพิ่ม กระเป๋าบางแบรนด์ผมก็สะสมเพิ่ม แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนใจเลยคือจริงๆ ชอบเพราะว่าจีช็อคมันเหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองผมไม่ชอบนาฬิกาที่มันหรูหราเกิน เกินตัวเองไปเราไม่ได้คนลักชัวรี่พรีเมียมขนาดนั้นเรายังแต่งตัวแบบนี้ จีช็อคมันเข้ากับการแต่งตัวของเราที่สุดจีช็อคมันทําให้เราดูวัยรุ่นเสมอ

มันเท่ห์มันดูทันสมัยและมันก็มีอะไรให้ให้เล่นได้เรื่อยๆ อะมันก็มีการคอลแลปกับแบรนด์ต่างๆ ที่เราชอบมันมีสีสันใหม่ๆ มันมีฟังก์ชันใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาเหมือนเราอัพเดทไปตามยุคสมัยเรื่อยๆ อะมันคือของสะสมที่ใช้งานได้ มันดัมเบิลฟังก์ชันอะ มันมีความสุขของการได้สะสมแล้วก็มันคือความสุขกับการใช้งานด้วย ก็เลยทําให้ยังรักมันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

เริ่มตั้งแต่ตอนเป็นเด็กวัยรุ่นยุค 90 คือช่วงนั้นเนี่ยสมัยเรียนม.ปลายเนี่ยเราก็จะมีไอเทมยอดนิยมของยุค 90เนี่ยไม่กี่ยี่ห้อและหนึ่งในไอเทมยุค 90 ตอนนั้นน่ะก็คือคาสิโอจีช็อคกับเบบี้จีที่เป็นแบบโหยมันแบบ Must have อะ สิ่งที่เราอยากได้มากเลยอะ ตอนแรกเราก็เห็นแค่รูปลักษณ์ภายนอกจากภาพอะ เหมือนเราเห็นJeffectอะ แต่พอไปจับของจริงเฮ้ย Tatching มันได้ มันดูทับบ้าง มันดูแข็งแรง มันดูทนทาน คือเราว่าเล่นบาส

เล่นบาส เตะบอล เล่นกีฬาก่อนหน้านี้นาฬิกามันก็มักจะพังสายเปื่อยบ้าง ที่เป็นสายหนังสายผ้าก็เหม็นบ้าง อะไรบ้างแล้วก็น้ําเข้าก็พังบ้าง แต่จีช็อคไม่เคยพังเลยแค่มีรอยถลอกปอกเปิกบ้างเป็นเรื่องธรรมดาเวลาเราล้มเเรากระแทกอะไรอย่างเงี้ยแต่มันไม่เคยพังเลย ก็เลยรู้สึกว่าเฮ้ยโหสิ่งนี้มัน มันเหนือชั้นว่ะ

ตอนเด็กเราแค่ใส่เราแค่ใช้งานเราไม่ได้รู้สตอรี่อะไรเลย แต่ไอ้เรื่องสตอรี่เนี่ยของ คุณคิคุโอะ อิเบะผู้ที่สร้างนาฬิกาจีช็อคขึ้นมาเนี่ยก็มารู้ตอนวาระที่ช็อคครบรอบ 30 ปีเนี่ยแหละ คุณอีเบะแกก็เป็นคนร่วมสมัยตลอดเวลาคือ ช็อคเดอะเวิลด์ล่าสุดก็ฉลองครบรอบ 40 ปี ล่าสุดก็จัดที่บาหลีก็เปิดตัวเอไอนาฬิกาจีชอคที่ออกแบบโดยเอไอรุ่นแรกของโลกมาจอยกับคุณคิคุโอะ อิเบะ แกปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและคาสิโอจีช็อคก็ปรับตัวเข้ากับยุคสมัย ไม่สิ้นสุดจริงๆ


ซึ่งถ้าพูดถึงการปรับตัวเข้ากับยุคสมัยเนี่ย ก็ต้องบอกว่าจีช็อกปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้ดีมากนะครับโดยเฉพาะการเล่าเรื่องผ่านไอคอนิคสไตล์เราเรียกแบบนี้ละกัน 4 รุ่นที่ถือว่าเป็นไอคอนนิคสไตล์ของจีช็อค ก็จะมีตระกูล 5600 ซีรีส์ที่ถูกพัฒนามาจากรุ่นต้นแบบอย่าง 5000 ซีรีส์ รุ่นที่สองก็คือตระกูล 6900 ซีรีส์ รุ่นที่ 3 เป็น 110 ซีรีส์แล้วก็รุ่นที่ 4 เป็น 2100 ซีรีส์ ผ่านการเล่าเรื่องทั้งในวงการอาร์ต วงการมิวสิค วงการแฟชั่นแล้วก็วงการสปอร์ต

 จะเห็นว่าจีชอคเนี่ยมีการไปคอลแลปส์หรือว่าคอลลาโบเรชั่นร่วมงานกับทั้ง 4 วงการเนี่ยมากมายและภายใต้ 4 ไอคอนนิคสไตล์ของจีช็อคที่ผมเล่าไปเมื่อสักครู่นี้เนี่ยก็ยังมีเอกลักษณ์และก็ความโดดเด่นแยกย่อยต่างกันออกไปอีกด้วยครับ

ก็เริ่มตั้งแต่ถ้าจะพูดถึงรุ่นที่เป็นไอคอนนิคของจีช็อกเลยเนี่ยก็ต้องเป็นรุ่นนี้รุ่นแรกก็คือ 5600 คุณคิคุโอะ อิเบะผู้ที่สร้างนาฬิกาจีช็อคขึ้นมาเนี่ย แกก็เป็นวิศวกรของบริษัทคาสิโอเดิม ที่ต้องบอกว่าเป็นคาสิโอก่อนยังไม่มีแบรนด์จีช็อค ที่เป็นแบรนด์ลูกถือกําเนิดขึ้น แล้วเรียกว่าเพนพ้อยท์ จุดเปลี่ยนในชีวิตของแกเนี่ย คือแกไปทํานาฬิกาของคุณพ่อที่ให้มาตกแตกแล้วเค้ารู้สึกแบบโหรู้สึกผิด นาฬิกาพ่อให้มาตั้งแพงเรามาทําพังได้ยังไง

 อยากจะชดเชยปมในใจด้วยการสร้างนาฬิกาที่ไม่พังง่ายๆ ขึ้นมาแล้วก็นําไอเดียนี้เนี่ยไปเสนอกับทางบริษัทคาร์สิโอจากนั้นก็ได้รับการอนุมัติให้มาพัฒนาโปรเจคต่อนะครับ หลังจากนั้นก็มีการใช้ความพยายามทดลองหลายรูปแบบทีเดียว แต่ว่าก็ยังไม่ได้เป็นผลลัพธ์ที่ต้องการนะครับ จนกระทั่งไปเห็นแบบเด็กเล่นเตะบอลลูกบอลโยนลูกบอลเล่นอย่างเงี้ย ลูกบอลยางเนี่ยนะฮะ วินาทีนั้นเค้ายูเลก้าเลยเค้าบังเกิดไอเดียทันทีเฮ้ยอันนี้มันใช้ได้นี่หว่า

ก็เลยเอามาต่อยอดสร้างนาฬิกาที่โมดูลหรือว่าตัวเครื่อง ที่เป็นหัวใจสําคัญเนี่ย ไม่ได้ยึดติดกับตัวเรือนเพราะถ้ายึดติดปุ๊บ หล่นปุ๊บมันก็จะพังตามสิ่งที่มันกระแทกใช่ไหม ก็เทสด้วยการโยนลงมาจากตึก โยนลงมาจากตึกชั้น 3 จนกระทั่งมันไม่พังแล้วจีช็อคเรือนแรกในยุคเนี่ย 80 ต้นๆ เนี่ยก็เลยถือกําเนิดขึ้นมาด้วยความไม่ยอมแพ้ของคุณอิเบะ

ตอนนั้นเป็นใช้ชื่อรุ่นว่า 5000 ซีรีส์แล้วเวลาต่อมาเนี่ยรุ่น 5000 ซีรีส์มันก็ถูกพัฒนาสู่รุ่น 5600 ซีรีย์นะครับ ที่ตัวเรือนถูกปรับให้มันว่าง่ายๆ กะทัดรัดมากขึ้นทันสมัยมากขึ้น มีสีสันให้เลือกมากขึ้นกว่าเดิม สําหรับโมเดล 5000 นวกซีรี่ส์ที่เลือกมาในวันนี้นะครับ มีชื่อรุ่นว่า GW-M5630A นะครับ เป็นตระกูลไรซิ่งเรดนะฮะ เป็นจีชอคสีแดงที่ออกมาในวาระครบรอบเฉลิมฉลอง 30 ปีนะครับ

หน้าตาเหมือนเดิมแต่ว่าต่อยอดฟังก์ชันต่างๆ เพิ่มขึ้นมามันจะกินแสงไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ใช้ระบบโซลาร์เซลล์ในการชาร์จตัวเองให้ทํางานต่อได้ เป็นตัวเรือนสีแดงแล้วก็หน้าปัดสีทองปุ่มกดสีทองฝาหลังสีทอง แล้วก็มีสกรีนเขียนโลโก้เนี่ยที่ชอบ ครบรอบ 30 ปีแล้วก็แบบโหท่าน สวยจังเลยว่ะเป็นคนชอบนาฬิกาสีแดงแล้วก็พอเห็นเรือนเนี้ยก็ชอบเลย


อีกตัวที่เป็นโมเดลคลาสสิคสุดๆ ของจีช็อคก็คือ 6900 รุ่นนี้เปิดตัวในเวลาถัดมาประมาณปี 1995 นะฮะ ตัวนี้เนี่ยจะมีความโค้งมนต่างจากจีช็อครุ่น 5000 กับ 5600 ซีรีส์ก่อนหน้า แล้วก็เพิ่มฟังก์ชั่นประสิทธิภาพใหม่ๆ เข้าไปนะครับ 6900 ก็เป็นรุ่นที่คอลแลปกับแบรนด์ต่างๆ เยอะมากนักกีฬา สโมสรเบสบอล ฟุตบอลอะไรต่างๆ


 อย่างรุ่นที่ผมเอามาวันนี้ก็เป็นรุ่นที่คอลแลปส์กับการ์ตูนญี่ปุ่น เรียกว่าในตํานานก็คืออุลตร้าแมนนะฮะ เป็นรุ่น DW-6900FS 45th Anniversary Special Edition นะครับ ของอุลตร้าแมนเซเว่นนะฮะ กดไฟแล้วจะเป็นรูปอุลตร้าแมนกําลังวิ่งอยู่ สายด้านยาวก็จะมีหน้าอกของอุลตร้าแมนแล้วก็เขียนว่า 45 ปีครบรอบอุลตร้าแมนนะครับ

 และก็แน่นอนฝาหลังคือจุดเด่นเลยในการคอลแลปนั่นก็คือ Plate หรือว่าหน้าปัดเนี่ยก็จะมีโลโก้ของแบรนด์นั้นๆ นี่ก็เป็นโลโก้อุลตร้าแมนรุ่น 6900 ซีรีส์ก็ถือว่าเป็นป๊อปคัลเจอร์เลยนะครับ ในวงการสตรีทแฟชั่นของจีช็อคตั้งแต่ยุคโหไป 90 น่ะจนถึงช่วงต้นมิลลิเนียมนะครับยิ่งถ้าคนชอบการ์ตูนญี่ปุ่นด้วยแล้วก็ชอบจีช็อคอยู่ด้วยอย่างผมอย่างเงี้ย ผมก็รู้สึกเออมันมันตอบโจทย์มากเลยแล้วเราก็..ก็ต้องมีอะ


 มาถึงจีช็อคที่เป็นไอคอนนิคสไตล์ตัวที่ 3 นะครับตัวนี้ก็ยอดนิยมเช่นกันนะฮะ 110 ซีรีส์ครับตัวนี้เนี่ยผลิตออกมาเมื่อปี 2010 โดยการออกแบบของดีไซเนอร์ระดับโลกชาวญี่ปุ่น คุณ ริวสุเกะ โมริอาอิ โดยที่ คุณ ริวสุเกะ โมริอาอิ เค้าเคยเล่าว่าเค้าได้รับอินสไปเรชั่นในการดีไซน์มาจากนิยายสตีมพังค์เนี่ยก็จะมีความเป็นไซไฟล้ําสมัยแล้วก็แรงบันดาลใจจากนวัตกรรมที่เป็นเครื่องจักรไอน้ําในยุคศตวรรษที่ 19 นะครับ รุ่นที่นํามาเสนอวันนี้ก็คือรุ่นที่เคยที่แบบทําให้จีช็อคกลับมาฟีเวอร์มากมากในปีครบรอบ 30 ปีก็คือรุ่นเนี้ย

 คนเนี่ยร่วมงานกับจีช็อคต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนานก็คือกราฟฟิตี้อาร์ตติสชื่อดังระดับโลก อีริคเฮชครับ GA-110 ที่ผมว่าเป็นการปฏิวัติวงการนาฬิกาอย่างนึงเลย เพราะว่าคือยุคหนึ่งนาฬิกาก็จะเป็นดิจิตอลอย่างเดียว หรือไม่ก็นาฬิกาเข็มอย่างเดียวแต่วันนี้เป็นการเอาสองอย่างมารวมกันก็คือเป็นเข็มด้วยแล้วก็มีดิจิตอลอยู่ข้างล่างด้วยนะครับ

 แล้วก็ฟังก์ชั่นเยอะมาก คือสามารถจับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง อันเนี้ยตั้งปลุกในเบสิคอยู่แล้ว แต่อันนี้จะเปลี่ยนเมือง พอเปลี่ยนเมืองปุ๊บเวลามันจะเปลี่ยนตามในเมืองที่เราไปในเมืองนั้นๆ ทั่วทุกมุมโลกเลย บางรุ่นไม่ต้องตั้งด้วยนะ บางรุ่นคือที่เป็นมัลติแบรนด์ซิกซ์เนี่ย

 หรือว่ารุ่นเวิร์ลไทม์ เนี่ยมันเปลี่ยนเวลาเองตอนที่เรานั่งอยู่บนเครื่องบินเลย แล้วข้ามเส้นเวลามันก็จะเปลี่ยนโดยอัตโนมัติเลยเหมือนนาฬิกาในแอปเปิ้ลในอะไรอย่างเงี้ย บางรุ่นทําอย่างนั้นได้

 แล้วการทําอย่างนั้นได้ ตั้งแต่แบบหลาย 10 ปีที่แล้วเนี่ยมันโห..มันใหม่มากนะ แล้วก็ 110 ที่มันมีลูกเล่นหลากหลายเนี่ย ทําให้โห..กลายเป็นไอคอนนิคสไตล์ของจีช็อค

 ที่ในบรรดาแร็ปเปอร์หลายๆ คนที่เป็นสายสกรีนแฟชั่นครับ อันนี้คอลแลปกับอีริคแฮชรุ่นนี้ค่อนข้างโดดเด่นตรงนี้เนี่ยสกรีนรายดาวกับลายเซ็นต์นะครับ ส่วนฝาหลังก็จะเป็นโลโก้ครบรอบ 30 ปีของจีช็อคนะครับ เป็นหนึ่งเรือนที่ผมว่าออกแบบได้เท่ห์มาก


 ถึงไอคอนนิคสไตล์ของจีช็อคตัวสุดท้ายที่เลือกมาแนะนําวันนี้ก็คือตระกูล 2100 ซีรีส์นะครับตัวนี้ถือว่าเป็นตัวล่าสุดนะครับเปิดตัวเมื่อปี 2019 นี่เองนะครับ 2100 ถือว่าเป็นสุดยอดความแข็งแกร่ง ถือว่าเป็นเรียกว่ามาตรฐานใหม่ของจีช็อคและเริ่มจากความหนาก่อน ความหนาเนี่ยเพียงแค่ 11.8 มิลลิเมตรถือว่าบางเฉียบมากมากวัสดุเป็นเรซิ่นคุณภาพสูงมากผนวกกับเทคโนโลยีที่เค้าเรียกว่าคาร์บอน คอร์การ์ดนะครับ


 จะใช้คาร์บอนไฟเบอร์เนี่ยเป็นส่วนประกอบในการสร้างวัสดุตัวเรือนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง อย่างวันเนี้ย ที่นํามาเสนอก็เป็นซีรีส์ 2100 Hidden Gold คือเรืองแสงในที่มืดได้นะครับเป็นโมเดลที่ผมว่ามันปรับตัวได้อย่างร่วมสมัยมาก 2100 เนี่ยยังคงเอกลักษณ์ของจีช็อคไว้ทุกอย่างนะ

 หน้าตาก็คือดูรู้เลย จีช็อคอย่างนึงคือตัวตนของเขาชัดเจนน่ะ เหมือนเรารู้ว่าคนคนนี้คือใคร แค่เปลี่ยนแต่งตัวแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่อะอันนี้เป็นอนาล็อกกึ่งดิจิตอลเหมือนกันแต่ว่าบางกว่า เบากว่า ทันสมัยขึ้น กลับให้มันแบบผู้หญิงใส่ได้เด็กใส่ได้หน้าตาเปลี่ยนเป็น 8 เหลี่ยมแต่ความทนทานทั้งหมดก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม


 คนที่ชอบความเรียบง่าย Match กับเสื้อผ้าง่ายแล้ว Function ก็ยังอยู่ครบนี่ผมว่า 2100 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและทั้งหมดที่พูดมาเนี่ยนะครับ ที่ผมรู้สึกว่านี่คือ Iconic เอกลักษณ์โดดเด่นของจีช็อคที่ใครก็ไม่มีทางเหมือนครับ

 และเรือนี้เป็นเรือนพิเศษครับ รักมากที่สุดเรือนนี้ใส่แข่งแฟนพันธุ์แท้ Super Fan นะฮะ แล้วก็เป็นเรือนที่แบบ เห็นแล้วต้องมีในครอบครองให้ได้ครับ เป็นตระกูล 6900 ซีรี่ส์เหมือนกันชื่อรุ่นของมันคือ G-Lide One Love GLX-6900XA ครับ เรือนเนี้ยเป็นคําว่ารักแรกพบได้เลย One Love นี่เค้าก็ได้อินสปายเรชั่นมาจากเพลงวันเลิฟของบ๊อบมาเลย์ เพราะนั้นมันก็เลยค่อนข้างดีไซน์เป็นราสต้า สกา เรกเก้นะ เขียว เหลือง แดง นะครับ

 GLX-6900 นี่ก็หน้าตาจะคล้ายๆ DW-6900 เพราะว่าก็ต่อยอดมาจากโมเดลเดียวกันแต่ว่าก็จะไซส์ใหญ่กว่า อันนี้คือ DW-6900 ข้างในเค้าจะมีวงกลม 3 อันข้างบน แต่ว่า GLX เนี่ยก็จะเป็นวงกลมวงเดียววัดน้ําขึ้นน้ําลง ไอ้วงกลมตรงเนี้ยเป็นให้ดูพระจันทร์นะ

มีฟังก์ชันดีเทลมากขึ้นกว่ารุ่น 6900 ขึ้นมาอีกสเต็ปหนึ่งแล้วก็เป็นเรือนที่รักที่สุดเลยเมื่อเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเรื่องนี้ก็ยังเป็นเรือนที่ไม่เคยเบื่อแล้วเอามาใส่ได้เสมอๆ

 ในมุมของการสะสมจีช็อคอะ เราไม่เคยมองในแง่การเก็งกําไรเลย อย่างที่บอกมันเป็นมูลค่าทางจิตใจ มันซื้อเพื่อเติมเต็มความต้องการทางใจบางอย่างแล้วเราก็ไม่ได้มองว่าเฮ้ย ตัวนี้เก็บไว้ไม่ใส่เลยหูป้ายห้อยอยู่ในกล่องอย่างดีเดี๋ยวไปขายต่อ ได้ใช้งานหมดเลย แต่อาจจะใช้มากใช้น้อยต่างกันไป ให้รู้สึกว่าเอ้ยชีวิตมันก็มีสีสันสนุกสนานดี เราว่าใส่จีช็อคแล้วมันมีความเป็นวัยรุ่นน่ะเห็นคนที่อายุเยอะเยอะในญี่ปุ่นอย่างเงี้ย คุณลุงเค้าใส่จีช็อค


สรุป

G-Shock เป็นนาฬิกาสุดคลาสสิคที่เหมาะกับคนที่ชอบความแข็งแรงและทนทาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยรุ่นที่ไม่ต้องการความหรูหราเกินไป จุดเด่นคือความทนทาน และฟังก์ชั่นครบครันที่เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ G-Shock ยังเป็นที่นิยมในการคอลแลปกับแบรนด์และศิลปินในวงการต่างๆ รุ่นไอคอนิคอย่าง 5600, 6900, 110 และ 2100 ได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะกับทั้งการใช้งานและการสะสม เพื่อความสนุกและคงล้ำสมัยอยู่ตลอดเวลา

"ถ้าชอบ​ G-SHOCK​ ตามผมมาลันล๊า! แน่นอน"

ไม่พลาดข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับนาฬิกา G-SHOCK กดติดตามผมได้เลยครับ

FB: @PairojSaelee

IG: @PairojSaelee

เพิ่มเพื่อน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

FanPage