สำหรับผม…มันไม่ใช่แค่การขาย G-SHOCK มือสอง แต่คือคุณภาพที่ต้องมาก่อน

 

📌สำหรับผม…มันไม่ใช่แค่การขาย G-SHOCK มือสอง แต่คือคุณภาพที่ต้องมาก่อน

หลายคนอาจมองว่างานขาย G-SHOCK มือสองก็แค่โพสต์รูป บอกราคา แล้วรอลูกค้า แต่สำหรับผม...ไม่ใช่แค่นั้น

เพราะสิ่งที่ผมขาย ไม่ใช่แค่นาฬิกา
แต่มันคือ “ประสบการณ์ใช้งานที่ไว้วางใจได้”

ก่อนนาฬิกา G-SHOCK มือสองจะถูกโพสต์ลงหน้าเพจ หรือเว็บไซต์ ทุกเรือนต้องผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า QC (Quality Check) อย่างเข้มข้น ซึ่งวันนี้ผมจะพาไปดูว่า...เบื้องหลังแต่ละเรือนต้องเจออะไรบ้างก่อนจะถึงมือลูกค้า


✅ ขั้นตอนการ QC G-SHOCK มือสอง ก่อนลงขาย

1. ตรวจเช็คสภาพเบื้องต้น (Visual Inspection)

ก่อนอื่นเลย ผมต้องใช้สายตาเช็คอย่างละเอียดกับสิ่งต่อไปนี้:

  • ปีที่ผลิต: เพื่อประเมินอายุของนาฬิกา

  • ตัวเรือน กรอบ สาย: ดูว่ามีรอยถลอก หนักเบา หรือมีรอยฉีกขาดหรือไม่

  • กระจก: เช็คว่ามีรอยขนแมว หรือรอยลึก

  • สกรู และฝาหลัง: ดูว่าเคยเปิดมาก่อนหรือไม่ มีการขีดข่วนหรือเปลี่ยนมาแล้วหรือเปล่า

1.1 หากนาฬิกาสภาพสวย ใช้งานน้อย และยังอยู่ในประกัน

ในกรณีนี้ ถ้าฝาหลังยังไม่ถูกเปิดและนาฬิกายังอยู่ในประกัน ผมจะ:

  • ตรวจสอบฟังก์ชันการใช้งานทั้งหมด

  • เช็ดทำความสะอาดคราบหรือรอยเล็กน้อย

  • ไม่มีการเปิดฝาหลัง หรือเปลี่ยนอะไหล่โดยไม่จำเป็น

1.2 หากเป็นของปีเก่า หมดประกัน แต่สภาพยังดี

นาฬิกาที่อาจเก็บไว้นาน หรือใช้งานน้อย แต่หมดประกันแล้ว ผมจะ:

  • เปิดฝาหลังอย่างระมัดระวัง

  • เปลี่ยน ซีลยาง เพื่อความแน่นหนากันน้ำ

  • เปลี่ยน ถ่านใหม่

  • เช็คฟังก์ชันทุกอย่างว่าทำงานครบ

  • เช็ดคราบสิ่งสกปรก และ ทดสอบการกันน้ำ (Water Resistance Test)

1.3 หากเป็นนาฬิกาเก่ากว่า 3 ปี และผ่านการใช้งานทั่วไป

สำหรับรุ่นที่ใช้งานมานานกว่า 3 ปี ผมจะเพิ่มความละเอียดมากขึ้น:

  • เปิดฝาหลัง

  • เปลี่ยนซีลยางใหม่ทั้งหมด

  • เปลี่ยนถ่านใหม่

  • เช็คระบบภายในว่าไม่เสียหาย

  • เช็ดล้างภายนอกอย่างดี

  • เทสต์กันน้ำอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ


2. การดูแลกรอบสายที่ผ่านการใช้งาน

ถ้า กรอบสายมีรอยเล็กน้อย ไม่มีการฉีกขาด หรือแตกหัก และยังไม่เสื่อมสภาพ เช่น ไม่เปื่อย ไม่เหนียว ผมจะ:

  • ทำความสะอาดด้วยวิธีเฉพาะ

  • ไม่ใช้สารเคมีรุนแรงที่อาจทำให้วัสดุเสื่อม

  • ทำให้กลับมาดูดีและพร้อมใช้งานอีกครั้ง


3. การดูแลกระจก

  • ถ้ามีรอยขนแมว: ผมจะใช้เทคนิคการ ขัดกระจก ให้ใสขึ้น

  • ถ้ามีรอยลึก หรือแตกร้าว: จำเป็นต้อง เปลี่ยนกระจกใหม่

ผมให้ความสำคัญกับหน้าปัดมาก เพราะคือ "หน้าตา" ของนาฬิกา G-SHOCK


4. การตรวจสอบตัวถังและปุ่มกด

4.1 ปุ่มกดซ้าย-ขวา ต้องใช้งานได้ดี

  • ถ้ากดแล้วไม่เด้งกลับ / เด้งช้า = ต้องแก้ไขทันที

  • ถ้าเจอฝุ่นหรือสนิมใต้ปุ่ม = ต้องถอดและทำความสะอาด

4.2 เช็คตัวถังโดยรอบ

  • ดูว่าไม่มีรอยร้าว หรือรอยรั่วที่อาจทำให้น้ำเข้า

  • ตรวจสอบ เกลียวน็อตทั้ง 4 ตัว ว่ายังแน่น ไม่หลวม ไม่หวาน

  • ถ้าเจอปัญหาเกลียวหวาน ต้องเปลี่ยน ถัง (case) ทันที เพื่อความปลอดภัยของการกันน้ำ


✅ ทำไมผมถึงไม่บอกว่า "สภาพกี่เปอร์เซ็นต์"?

หลายคนสงสัยว่าทำไมผมไม่ระบุว่านาฬิกาเรือนนี้สภาพกี่เปอร์เซ็นต์ เช่น 80%, 90% หรือ 95%?

เหตุผลก็คือ...

“มาตรฐานความรู้สึกของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน”

  • คนที่เคยผ่านนาฬิกาเพียงไม่กี่เรือน อาจมองว่าเรือนนี้ 90%

  • แต่สำหรับคนที่เคยผ่านมือมานับพัน อาจบอกว่าเรือนเดียวกันนี้แค่ 80%

ผมจึงเลือกใช้วิธี ถ่ายภาพที่ "เหมือนจริง" ให้มากที่สุด และ เขียนคำอธิบายตามความเป็นจริง แทน

เพราะผมเชื่อว่า...

ภาพที่ชัด + คำพูดจริงใจ = ความไว้วางใจ

และสุดท้าย ให้ คุณภาพ ความไว้ใจ และเวลา เป็นเครื่องพิสูจน์


💬 สรุปท้ายบทความ: สำหรับผม…มันมากกว่าคำว่าธุรกิจ

การขาย G-SHOCK มือสองไม่ใช่แค่ “ขายของให้หมด”
แต่มันคือการส่งมอบ ของดีจริง ให้กับคนที่ “เห็นคุณค่า”

เพราะทุกเรือนที่ผมคัดมาขาย...คือเรือนที่ กล้ารับประกันว่าผ่านการดูแลมาอย่างดีที่สุด

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น