DW-6900 vs GD-X6900 — คลาสสิกที่โตขึ้น
![]() |
ท่ามกลางสายฝน และเสียงฟ้าร้องที่เหมือนโกรธใครมา ในรุ่งอรุณของเช้ามืดวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568
วันนี้ผมไม่ได้เข้าออฟฟิศ... และไม่รู้ทำไม ถ้าวันไหนไม่ได้เข้าออฟฟิศ ผมจะตื่นเช้าเป็นพิเศษ 555
(ถ้านายมาอ่านเจอ อย่าว่ากันนะครับ เดี๋ยวมีเรื่อง 😅)
ตำนานที่เริ่มต้นในปี 1995: DW-6900
วันนี้อยากพาเพื่อนๆ ย้อนกลับไปปี 1995 — ปีที่ G-SHOCK เปิดตัวรุ่น DW-6900
หนึ่งในโมเดลที่กลายเป็น "ของมันต้องมี" สำหรับชาว G-Shock ทั่วโลก
ด้วยดีไซน์เรียบง่ายแต่แกร่งจริง หน้าปัดทรงกลม 3 วง (Triple Graph) ที่กลายเป็นเอกลักษณ์
DW-6900 ไม่ใช่แค่ขายดี แต่กลายเป็น Iconic Model ของแบรนด์ จนถึงปัจจุบัน
ปี 2013: GD-X6900 ขยายร่าง ความเท่เต็มพลัง
ในปี 2013 G-SHOCK ได้ปลุกตำนานขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว GD-X6900 Series
เพื่อแฟนๆ ที่รัก DW-6900 แต่ต้องการเวอร์ชันที่ "ใหญ่กว่า ดุดันกว่า และอัปเกรดกว่าเดิม"
ตัวเรือนของ GD-X6900 ใหญ่ขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับ DW-6900 รุ่นดั้งเดิม
ตอบโจทย์สายลุย, คนที่ชอบนาฬิกาขนาด XL, และกลุ่ม Streetwear / Hip-hop
ใส่แล้วเด่น เห็นชัดจากระยะ 5 เมตร 😎
- ไฟ LED Super Illuminator พร้อมออโต้ไลท์ (Auto Light Switch)
- แบตเตอรี่ CR2032 ที่อยู่ได้สูงสุดถึง 10 ปี
ถึงนาฬิกาจะตัวใหญ่ แต่กินพลังงานน้อยลง ยืดอายุแบตได้นานขึ้น
สอดคล้องกับช่วงเวลาที่โลกเริ่มพูดถึงเรื่องการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์พอดี
สรุป: คลาสสิกที่กลายร่างเป็นตำนานรุ่นใหม่
GD-X6900 คือเวอร์ชัน “ขยายร่าง” ของ DW-6900
ไม่ได้เปลี่ยนแค่ขนาด แต่ยกระดับทั้งสไตล์ ฟังก์ชัน และกลุ่มเป้าหมาย
ทำให้ DW-6900 กลับมามีชีวิตอีกครั้งในหมู่คนรุ่นใหม่
และกลายเป็นเรือธงของ G-SHOCK สาย Big Case ไปในที่สุด
ตอนหน้า: GD-X6930E-9DR ลิมิเต็ดตัวจี๊ด
ตอนต่อไป มีเวลาเมื่อไร จะพา GD-X6930E-9DR ตัวที่อยู่ในรูป มาคุยให้ฟังกันแบบจัดเต็ม
เพราะมันไม่ใช่แค่สวย — แต่มันมี “เรื่อง” อยู่ในตัวมันเพียบ
ถ้าอ่านแล้วมีคำผิดหรือพิมพ์ตก ช่วยสะกิดได้เลยครับ
แต่ถ้าชอบ ก็ขอกำลังใจกันเล็กๆ น้อยๆ ด้วยไลก์หรือแชร์ครับ 🙏⌚
แด่...วันที่สวยงาม
0 ความคิดเห็น